โปรแกรมเทรด MetaTrader ตัว MT4 กับ MT5 อันไหนดีกว่ากัน?

MT4 กับ MT5 อันไหนดีกว่ากัน?

    เป็นคำถามโลกแตกของเหล่าเทรดเดอร์หน้าใหม่หรือแม้กระทั่งหน้าเก่าในวงการ กับโปรแกรมที่ใช้ในการเทรด ซื้อ-ขาย อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX) บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งนั้นก็คือแฟลตฟอร์ม MetaTrader (อ่านว่า เมต้า เทรดเดอร์ หรือเรียกย่อๆว่า MT) โดยมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนล่าสุด ณ ตอนนี้โปรแกรม MetaTrader ออมาเป็นเป็นเวอร์ชั่นที่ 5 แล้ว (เรียกย่อๆว่า MT5) ถึงแม้จะเป็นรุ่นใหม่ที่ออกมาอัพเดทแต่ถ้าบางฟังก์ชั่น, บางคุณสมบัติ หรือทางเลือกอื่นๆ ออกมาไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่เราต้องการใช้งาน มีข้อจำกัดบางอย่าง ไม่ดีเท่ารุ่นเดิม ถ้าเป็นเช่นนั้นเหล่าเทรดเดอร์ทั้งหลายก็คงจะไม่ปลื้มกับของใหม่เท่าไรนัก

MT4 กับ MT5 อันไหนดีกว่ากัน?

โปรแกรมเทรด MT4 และ MT 5 บนโทรศัพท์ PC

    โดยทั่วไปแล้วความเข้าใจของเราๆก็ต้องคิดว่า "ยังไงของใหม่ๆ มันก็ต้องดีกว่าตัวเก่าอยู่แล้วหนิ?" ตามหลักมุมมองพื้นฐานทั่วๆไป ฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาชั่งน้ำหนัก ดูว่าข้อแตกต่างระหว่างของใหม่กับของเก่าอย่าง แฟลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) กับ MetaTrader 5 (MT5) อันไหนดีกว่ากันอย่างไร?

    โดย MetaTrader 5 นั้นได้ออกสู่ตลาดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2010 ซึ่งข้อดีของ MT5 นั้นมีดังนี้
  • มีการพัฒนาประสิทธิภาพและความเร็วมากขึ้น
  • รูปแบบหน้าจอ 3 ชนิด 
  • Timeframe 21 แบบ และ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลกว่า 70 ชิ้น 
  • สามารถเทรดในตลาดที่แตกต่างกันได้อย่างตลาด Options, Futures, Stocks, Forex 
  • มีหน้าเครื่องมือที่ซับซ้อนในการรายงานผลการเทรดทั้งหมด 
  • มีข้อมูลหลากหลายชนิดมากขึ้น และง่ายต่อการทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ เช่นโปรแกรมที่พัฒนาโดยภาษา C++ 
  • มีออเดอร์ 4 ชนิด ที่แตกต่างกัน 
  • พร้อมระบบ จัดการออเดอร์ 4 รูปแบบ
ตารางเปรียบเทียบ MT4 กับ MT5

อินเตอร์เฟสและกราฟราคา
    MT 5 มีขนาดไอคอนใหญ่กว่าเดิม และมีการจัดวางระยะห่างที่เหมาะสม ถ้าเทียบกับ การออกแบบ แบบอัดแน่นของ MT4 ทำให้ MT5 นั้นออกมาหน้าตาดูดีกว่า MT4 มากทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันมันก็ ใช้ RAM และCPU มากกว่าเดิม

เครื่องมือในการวิเคราะห์ 
    MT5 มีเครื่องมือวิเคราะห์ถึง 79 แบบ และมี Timeframe 21 แบบ ซึ่งทำให้มันสามารถเปิดกราฟราคาได้ถึง 100 กราฟด้วยกัน ในขณะที่ MT4 มีเพียง Timeframe แค่ 9 แบบในการเทรด ซื้่อ-ขาย ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และมี Indicator 50 ตัวในการวิเคราะห์เทรนด์, จุดเข้าเทรด และจุดปิดการเทรด

การส่งคำสั่งเทรด
    MT4 นั้นรองรับรูปแบบการส่งคำสั่งแค่เพียง 3 รูปแบบ นั่นคือ Instant, Market และ Request ในขณะที่ตัว MT5 รองรับถึง 4 รูปแบบด้วยกันได้แก่  Instant, Market, Request และ Exchange Execution และทั้ง 2 โปรแกรมรองรับชนิด ออเดอร์อยู่ 3 แบบ เช่นกันนั่นคือ Market, Pending และ Stop Orders. 

การจัดการการซื้อ/ขาย
    เพื่อเคารพกฎของ National Futures Association (NFA) และกฎของยุโรป MT5 ได้ทำการออกแบบให้ทำการเทรดได้เพียงแค่ 1 ออเดอร์ต่อการซื้อหรือขายเท่านั้น สำหรับตลาดหุ้นใดหุ้นหนึ่ง หรือ FOREX คู่เงินใดคู่เงินหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้การเทรดด้วย Hedging นั้นไม่สามารถใช้งานได้บน MT5 ตัวอย่างเช่นเมื่อเวลา 10.00 น. ซื้อ EURUSD 0.1 lot ที่ราคา 1.1400 และหลังจากนั้น 14.00 น. ซื้อ EURUSD 0.2 lot ที่ราคา 1.1600

การ Backtesting เพื่อทดสอบ EA 
    การใช้งานใน MT4 ไม่ค่อยให้ประโยชน์มากเท่าไรนักซึ่งก็เป็นจุดอ่อนหนึ่ง ในขณะที่ MT5 นั้นมีฟีเจอร์ Backtesting ที่ต้องการให้มีการปรับแต่งแก้ไขจำนวนมาก ก่อนที่จะเริ่มทำการ Testing
"ซึ่งผ่านมาเป็นระยะเวลานานหลายปี จนตอนนี้เข้าสู่ปี 2020 แล้วแต่กระนั้นจำนวนผู้ใช้งาน MT5 ยังมีสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4"

พอมีประสบการณ์ในการเทรด หรือ การใช้งานจริงๆ MT4 กลับตอบโจทย์กว่า?

ชีวิตเทรดเดอร์หุ้น Forex

ความเข้ากันได้ 
    ทาง MetaQuotes ได้ประกาศออกมาว่า มันจะไม่มีความเชื่อมต่อกันระหว่างโปรแกรม MT4 และ MT5 นี่เป็นผลพวงมาจากการพัฒนาภาษาโปรแกรมใน MT5 เพื่อผลลัพธ์ด้านความรวดเร็วในการทำงาน ดังนั้น ตัว EA โรบอทของ MT4 (สกุลไฟล์ .mq4 และ .ex4) จะไม่สามารถทำการรันบนโปรแกรม MT5 ได้ การคอมไพล์ไฟล์ของ MT4 นั้นทำได้รวดเร็วแทบจะกระพริบตาเดียว แต่ในขณะที่ MT5 รู้สึกราวกับว่ามันเป็นการเดินทางที่ยาวนานเลยทีเดียว ไม่ทันกินสำหรับเทรดเดอร์ที่กระหายหาจังหวะทำกำไรแบบรวดเร็ว และ เมื่อรู้แบบนี้แล้วคนที่ใช้ EA บน MT4 อยู่คงเกิดคำถามว่า "เฮ้ย!! ผมซื้อ EA มาตั้งแพง ลงทุนลงแรงมาตั้งเยอะ ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะ?" และมีเพียงวิธีการเดียวเท่านั้นที่จะใช้ได้ ก็คือการเขียน EA ขึ้นใหม่ทั้งหมดในภาษา C++

ความต้องการสเปกคอมพิวเตอร์ 
    มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้กำลังของคอมพิวเตอร์ในการเปิดใช้งานโปรแกรม MT4 นั้น มีความต้องการใช้ RAM น้อยกว่า แต่ในขณะที่ MT5 ต้องการใช้ RAM มากกว่าถึง 3 เท่าตัว แต่อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นปัญหาเท่าไรนักหากคุณใช้คอมพิวเตอร์รุ่นที่ยังใหม่อยู่ สัก 3-5 ปี แต่หากเก่ากว่านั้นแล้วล่ะก็ คุณจะได้เจอปัญหากับการใช้งาน MT5 อย่างแน่นอน

สรุปข้อเสียของ MT5 หลังจากได้ใช้ MT4 นั้นมีดังนี้
  • ในตอนเริ่มต้นนั้น MT5 ไม่รองรับกลยุทธ์การเทรดแบบ Hedging
  • ตามกฎของ FIFO ซึ่งมีความเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบ 
  • ในการซื้อขาย EA , Indicator ที่เคยใช้งานกับ MT4 จะนำมาใช้บน MT5 ไม่ได้ เพราะเขียนด้วยคนละภาษากัน MT4 เขียนด้วยภาษา MQL เฉพาะ แต่ MT5 เขียนด้วยภาษา C++
  • MT5 ใช้ทรัพยากรเครื่อง Ram และ CPU สูงขึ้นกว่าเดิม
ทำนักลงทุน, เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงไม่อยากเปลี่ยนไปใช้งาน MT5

ถึงแม้ปัจจุบัน MT5 จะสามารถใช้เทคนิค Hedging, Scalping ได้แล้ว
    แต่จำนวน Indicator, EA ที่รองรับการใช้งานกับ MT5 ยังมีค่อนข้างน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ MT4
เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่น้อย, นักพัฒนาจึงไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะสร้าง Indicator, EA รองรับกับ MT5 และบางโบรกเกอร์นั้นก็ยังไม่รองรับ MT5 อาจต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจำนวนผู้ใช้งาน MT5 จะสูงขึ้น

สรุป

    ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความชอบส่วนตัวของเทรดเดอร์ แต่ถ้าคุณเชื่อในเทคโนโลยีและให้ความสำคัญกับการเทรดทุกประเภทในอนาคต แพลตฟอร์ม MT5 อาจเหมาะสำหรับคุณ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้จุดแตกต่างระหว่าง 2 เวอร์ชั่นนี้แล้ว และทีมงานเองก็หวังว่าข้อเสียต่างๆของ MT5 จะถูกกำจัดออกไปหลังจากนี้ รวมถึง ปลั๊กอิน ต่างๆที่จะทำให้การเทรดทำงานได้ดีขึ้นกว่านี้ แต่ถ้าหากตอนนี้คุณเน้นไปทางใช้เครื่องมือในการเทรดที่หลากหลายเอามากๆ รวมถึงใช้ EA เทรดอัตโนมัติ MT4 ตอบโจทย์กว่า

_____________________________________________

🔍 ตีแผ่เรื่องราว FOREX - Binary Options ในสิ่งที่คุณไม่รู้ 💡 นิยามของคำว่า "ลงทุน" อย่างเข้าใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้แต่อย่างใด 🎓 📈 เพื่อสำหรับคนที่อยากเริ่มศึกษาเกี่ยวกับตลาด FOREX หรือ Binary Options แต่รายละเอียดเยอะเหลือเกิน และบางอย่างเป็นอะไรที่เข้าใจได้ยาก ศึกษามาเรื่อยๆแต่ยังไม่เข้าใจในตลาดอย่างจริงจังในแชนแนลนี้ตอบโจทย์ให้เพื่อคุณอย่างแท้จริง ดูแล้วปฎิบัติตามได้ให้เข้าใจง่ายเป็นขั้นตอน และความรู้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างรายได้ของคุณด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาอาจารย์ผู้สอนหรือเสียเงินค่าคอร์สเรียนแต่อย่างใด เพียงแค่ความตั้งใจศึกษาด้วยคุณเอง ไม่โลภ และไม่ย่อท้อ วันนึงคุณจะประสบความสำเร็จในแบบของคุณเอง $ มือใหม่มารู้จักกับ FOREX หรือ Binary Options คืออะไรกันก่อน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นนักเทรดหุ้นแต่มีทุนทรัพย์น้อย การเทรด FOREX หรือ Binary Options จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคุณ $ เมื่อดูวีดีโอแล้วจงตั้งใจศึกษาปฐิบัติตามและทำความเข้าใจ รู้จักปรับใช้ ที่สำคัญอย่าลืมกดติดตาม " Subscribe" เพื่อเป็นกำลังใจและตอบแทนความรู้ที่มอบให้กลุ่มของพวกเรา "Thai Forex Room" --- คนไม่หยุดเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ 1. เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่เปิดบัญชี จนถึง วิเคราะห์เทคนิค 📉 เปิดพอร์ตบัญชีเทรด Binary Options ด้วยตัวเองได้ที่ เว็บไซต์ IQ Option ที่นี่ ► https://iqoption.com/land/start-trading/th/?aff=49418 🎥 บทเรียนสอน Binary Options รับชมได้ที่ ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLclg51aq-PdiZxUZfhfdn4i9hDbWO6Qrs 💹 สำหรับ เปิดพอร์ตบัญชีเทรด Forex ด้วยตัวเองได้ที่ เว็บไซต์ Forex4you ที่นี่ ► https://www.forex4you.com/th/?affid=pjjfmsb 🎥 บทเรียนสอน Forex รับชมได้ที่ ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLclg51aq-Pdg5mgTEjwPcpKM21v43tJ2l 2. ฝึกฝน Demo จนเข้าใจแล้วเทรดเงินจริงเพื่อสร้างรายได้เป็นของตัวเอง 3. ติดตามข้อมูลเทคนิคทำกำไรเพิ่มเติมหรือหาเครื่องมือช่วยเทรดให้ง่ายขึ้นในหรือลดความเสี่ยงลง ได้ที่ เว็บไซต์ ► http://thaiforexroom.blogspot.com Twitter ► https://twitter.com/thaiforexroom Instagram ► https://www.instagram.com/thaiforexroom กลุ่มเฟสบุ๊ก ► https://www.facebook.com/groups/thaiforexroom 4. คนไม่หยุดพยายามเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จ 5. อย่าโลภอย่างเด็ดขาด และอย่าให้คนอื่นระดมทุนเทรดหรือโอนเงินให้ผู้อื่น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นนักเทรดหุ้นแต่มีทุนทรัพย์น้อย การเทรด FOREX หรือ Binary Options จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคุณ ⚠️ จงเป็นนักลงทุนอย่างชาญฉลาดโปรดอ่านคำเตือนทุกครั้ง !!! Risk Warning : คำเตือน การลงทุนทั้งหลายล้วน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนและปฎิบัติด้วยตัวเอง - ผู้สนใจลงทุนควรใช้ข้อมูลในเว็บไซต์นี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น และอ่านนโยบายการเงินจากโบรกเกอร์ในแต่ละตลาดทุกครั้ง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอ้างอิงประกอบอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน · ในการลงทุน ซื้อ - ขายในตลาดลงทุนใด ๆ ผู้ลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินลงทุนคืนน้อยกว่าจำนวนเงินลงทุน - อย่าหลงเชื่อใครใดๆที่แนะนำว่ามีบริการโอนเงินดังกล่าว เพื่อรับฝากเงินลงทุน ซื้อ-ขาย แทนท่าน โดยที่ไม่ต้องทำเอง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหลอกเอาเงินทุนท่านไประดมทุน · การลงทุนมิใช่การฝากเงิน และจะไม่ได้รับการค้ำประกันจากสถาบันผู้รับฝากหรือหน่วยงานราชการใดๆ ทั้งสิ้น

👇 กดปุ่มแชร์ความรู้ได้ที่นี่

🔥 บทความที่ได้รับความนิยม

👨‍💻👩‍💻 จำนวนการดูหน้าเว็บวันนี้

- SPONSORED | ผู้สนับสนุน -