[รีวิวสั้นๆ] BINANCE เว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุดในโลก


    ในปัจจุบันปี 2021 นี้ หลายคนที่อยู่ในวงการเหรียญคริปโตมาสักพักคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกระดานเทรดสกุลเงินดิจิตอลระดับโลกและมีโวลุ่ม ซื้อ-ขาย มากที่สุดในโลกนามว่า BINANCE ผู้ให้กำเนิดเหรียญ BNB อย่างแน่นอน ( อ่านว่า ไบแนนซ์ เป็นกระดานเทรดคริปโตต่างประเทศที่มีมูลค่าซื้อ-ขายสูงที่สุดในโลก ซึ่ง ณ ปัจจุบันตอนนี้รองรับภาษาไทยแล้ว) และยังมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และผ่านมรสุมมาอย่างมากมายนับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อปี 2017 ถึงแม้เป็นกระดานเทรดที่เกิดขึ้นมาไม่นานแต่ก็มีการเติบโตอย่างมหาศาลและฟื้นคืนกลับมาได้หลังจากเหตุการณ์แฮ็กครั้งใหญ่ ซึ่งหากเป็นเว็บเทรดอื่นๆอาจตายไปแล้วในครั้งนั้น  ยิ่งในช่วงนี้ในประเทศไทยโดยเฉพาะมือใหม่สนใจอยากเทรดเหรียญคริปโตแต่ทางเว็บ Bitkub เองยังอยู่ในช่วงปรับปรุงระบบเนื่องจากมีการเปิดบัญชีเทรดรายใหม่เป็นจำนวนมากจนถึงขั้นระบบล่ม และ ก.ล.ต. ต้องคอยกำกับดูแลคุมสถานการณ์อยู่ตอนนี้ ทำให้เสียโอกาสในการลงทุน (คาดว่าน่าจะเรียบร้อยที่เปิดให้สมัครบัญชีเทรดรายใหม่คงเป็นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป) ซึ่งทีมงาน Thai Forex Room ให้ทุกคนได้รู้จักกับกระดานเทรดระดับโลกไว้เป็นอีกทางเลือกนึงแล้วกันครับ

   ก่อนหน้านี้ทาง BINANCE เองก็เพิ่งได้เบิร์นเหรียญทิ้งไปด้วยทำให้มูลค่าเหรียญ BNB แรงขึ้นไปอีกจากประมาณ 1,200 บาทกว่าๆ ไปเป็น 2,100 บาท ++  ทีนี้เรามาดูกันว่าหน้าตากระดานเทรด Binance จะเป็นอย่างไรผ่านบทความรีวิวนี้

อ่านเพิ่มเติม ► BINANCE ทำการเบิร์นเหรียญคริปโต BNB ทิ้งเป็นรอบที่ 14 เพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคต

หน้าตา Design และความง่ายต่อการใช้งาน


    ก่อนอื่นจะใช้งาน BINANCE ก็ต้องสมัครสมาชิกเสียก่อน ซึ่งโดยส่วนตัวทางทีมงาน Thai Forex Room เองก็ได้สมัครสมาชิกกับทางเว็บไซต์ไว้อยู่แล้ว ซึ่งหากมองในแง่ของหน้าตาดีไซน์เว็บไซต์ก็ต้องบอกว่าให้ความรู้สึกเรียบหรู​เน้นธีมสีดำและสีเหลือง

   ฟีเจอร์การใช้งานของ BINANCE นั้นเรียกได้ว่ามีเยอะมากๆ ด้วยความที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ก็ย่อมต้องพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดีขึ้นเป็นธรรมดา แถบด้านบนนั้นก็จะมีการให้กดซื้อเหรียญ BTC, BNB, DOGE, ETH, XRP และเหรียญคริปโตอื่นๆกับสกุลเงินเฟียต (Fiat Currency หรือก็คือเงินกระดาษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้) ซึ่งในตอนนี้ซัพพอร์ตเงินบาทไทยแล้ว

   ซึ่งแพลตฟอร์มของเว็บไซต์หน้าแรกนอกจากจะมีให้ซื้อเหรียญคริปโตก็มีตารางแสดงราคาเหรียญด้วยโดยเริ่มที่ราคาเหรียญของ BNB เป็นเหรียญลำดับแรก


    ส่วนด้านล่างก็จะมีให้โหลดแอพลิเคชั่นของ BINANCE ทั้งเวอร์ชั่นมือถือ Android และ iOS, คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและ API ช่วยเหลือต่างๆ


    ช่องทางการติดต่อ BINANCE มีระบบซัพพอร์ต 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทาง BINANCE ยังมีช่อง ตำแหน่งงานด้วย ถ้าใครที่สนใจอยากทำงานกับบริษัทก็กดเข้าไปดูในช่องนี้ได้ อีกทั้ง BINANCE เป็นแพลตฟอร์มที่มีความเสถียรสูงมากและมีผู้ใช้งานที่หลากหลายจากทั่วโลกจึงไม่แปลกที่ BINANCE จะกลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมมากที่สุดในโลก

การยืนยันตัวตน (KYC)

    
    การสมัครสมาชิกของเว็บ BINANCE นั้นไม่ยากเหมือนเว็บทั่วๆไปโดยจะใช้มาตรฐานการทำ KYC ที่ประกอบไปด้วยการถ่ายรูปพาสปอร์ตพร้อมกับเจ้าของตามปกติ โดยหากทำ KYC เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทาง BINANCE จะทำการ Verify ยืนยันตัวตนเหมือนเว็บ Exchange อื่น ๆ ถ้าใครไม่ Verify การถอน Bitcoin ออกจะถูกจำกัดแค่ 2 BTC ต่อวันเท่านั้น ถ้าเรามีความจำเป็นต้องถอนมากกว่า 2 BTC ควรจะยืนยันตัวตน


สำหรับคนไทยสามารถใช้ได้ทั้ง Passport หรือ บัตรประจำตัวประชาชนในการยืนยันตัวตน

เหรียญคริปโตต่างๆที่มีให้เทรด

   
    มาดูที่หน้าเมนูตลาด (Markets) กันบ้าง หลักๆในหน้านี้คือจะแสดงราคาของเหรียญต่างๆ ซึ่งก็จะแบ่งออกเป็นตลาดในหน้าของเหรียญที่เราชื่นชอบหรือ Favorite, BNB Markets, BTC Markets, ALTS Markets, FIAT Markets และ ETF ซึ่งหน้านี้จะแสดงความเปลี่ยนแปลงราคาของเหรียญในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา, มูลค่า Market Cap และ 24h Volume ซึ่งละเอียดมากๆ

    เมื่อกล่าวถึงเหรียญที่มีอยู่ในเว็บ BINANCE แน่นอนว่า มีเหรียญที่หลากหลายให้ผู้ใช้งานเลือกเทรด โดยปริมาณเหรียญที่มีนั้นมีมากกว่า 100 เหรียญไม่ว่าจะเป็น TRX, LINK, IOTA และอื่นๆอีกมากมาย โดยเหรียญส่วนใหญ่นั้นจะถูก Quote จับราคาคู่กับ BTC, BNB, ETH และ USDT หรือเหรียญใหญ่ๆหลักๆ

ค่าธรรมเนียม

    สำหรับเว็บ BINANCE ค่าธรรมเนียมในการเทรดของ Maker และ Taker นั้นอยู่ที่ 0.1% ต่อโวลุ่มที่เทรดต่อครั้ง ในกรณีที่คุณมีโวลุมเทรดต่อเดือนที่ต่ำกว่า 50 BTC (ซึ่งจะนับเป็นระดับ VIP 0) ทว่าหากคุณใช้เหรียญ BNB ในการจ่ายค่าธรรมเนียมนั้น มันจะลดลงเหลือแค่ 0.075%

**หากดูที่ตารางรูปด้านล่างนั้นจะเห็นได้ถึงอัตราค่าธรรมเนียมที่ลดหลั่นลงมาตามระดับโวลุ่มในการเทรด

การเทรดซื้อ-ขายบน BINANCE

   
    ในส่วนของการซื้อขายที่ BINANCE มีให้เลือกซื้อคริปโตได้หลากหลายมากผ่านทาง Convert, Classic, Advanced, Margin และ P2P ทั้ง 5 ช่องทางนี้

  • Convert เป็นวิธีการเทรดแบบง่ายสุดโดยนำเหรียญคริปโตที่เรามีอยู่ไปแลกกับสกุลเงินคริปโตตัวอื่น

การเทรดแบบ Convert
  • Classic เป็นวิธีการเทรดแสดงกราฟราคา หน้าตาคุ้นเคยคล้ายๆกับแพลตฟอร์มของเว็บเทรด Exchange อื่นๆ เช่น Bitkub, Satang Pro เป็นต้นและสามารถปรับโหมดเป็นกลางวัน/กลางคืนได้ มีกราฟแสดงโชว์และมีราคา Bid/Ask
การเทรดแบบ Classic
  • Advanced เป็นวิธีการเทรดแสดงกราฟราคาเหมือนกับแบบ Classic แต่ที่เพิ่มเติมคือกราฟราคาจะถูกเปลี่ยนมาอยู่ด้านซ้ายมือพื้นที่ทั้งหน้านี้คือแสดงการเทรดอย่างเดียวโดยผู้ใช้สามารถเลือกให้แสดงแต่ราคาซื้อหรือให้แสดงแต่ราคาขายหรือให้แสดงทั้งราคาซื้อและราคาขายได้พร้อมทั้งบอกการซื้อขายล่าสุด ซึ่งจะมีเครื่องช่วยวิเคราะห์กราฟ Technical Indicator ให้ใส่ด้วยก็สามารถเลือกใช้เครื่องมืออินดิเคเตอร์ที่ถนัดตามต้องการได้เลย
การเทรดแบบ Advanced
  • Margin เป็นวิธีการเทรดแสดงกราฟราคาคล้ายกับ 2 แบบก่อนหน้านี้แต่ระบบลึกลับซับซ้อนกว่า ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นตรงส่วนซื้อขายเพิ่มเติมให้เลือกคือ Normal (ปกติ), Borrow (ยืม) และ Repay (จ่ายคืน) สำหรับรูปแบบการเทรดมาร์จิ้นคือทาง BINANCE นั้นได้ทำการแยก Wallet สำหรับเทรดมาร์จิ้นโดยเฉพาะซึ่งหากต้องการเทรดก็ต้องโอนเงินจาก Spot Wallet มาไว้ที่ Margin Wallet ก่อน โดยกดเข้ามาที่หน้า Wallet แล้วเข้าไปที่ Margin Wallet ซึ่งค่อนข้างจะซับซ้อนหากใครไม่ศึกษาก่อนอาจจะงงได้ แต่ก็เป็นระบบดีทีเดียว
การเทรดแบบ Margin
  • P2P การเทรดแบบ P2P ก็คือการซื้อขายโดยผู้ใช้งานซื้อขายกันเอง ซึ่งเราสามารถกดเลือกได้ว่าเราอยากซื้อเหรียญอะไร? หรือเราอยากจะขายเหรียญอะไรตามภาพด้านล่างนี้ โดยจะมีผู้ใช้งานมาตั้งราคาขายเอาไว้และบอกวิธีการชำระเงินด้วยว่าสามารถชำระได้ทางไหนบ้าง ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นผ่านทางธนาคาร
การเทรดแบบ P2P

การฝากและถอนเงิน

  • การฝาก ในส่วนของการฝากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะฝากเป็นเงินคริปโตหรือสกุลเงินเฟียตซึ่งหากฝากเป็นเงินเฟียตนั้นจะมีสกุลเงินให้เลือกอยู่ 17 สกุลเงิน (ไม่มีสกุลเงินบาทไทย)

    *** หากจะฝากเงินไทยให้ฝากกับเว็บเทรด Exchange อื่นๆที่ซัพพอร์ตเงินไทยเช่น BitkubSatang Pro เป็นต้น เพื่อแลกเป็นสกุลเงินเป็นคริปโตก่อนแล้วก็สามารถกดที่ Copy Address กระเป๋า Wallet เพื่อฝากเงินเข้ามาใน BINANCE ได้เลย 
  • การถอน ในส่วนของการถอนก็เลือก Address ที่เราต้องการจะฝากตรงช่อง Recipeint’s (…) Address (Address ผู้รับขึ้นอยู่กับเราจะถอนเหรียญอะไร) แล้วใส่จำนวนจากนั้นกด Submit แล้วรอเงินเข้า

    การถอนทาง Binance นั้นจะรองรับการถอนสกุลเงินเฟียตเพียงแค่ 17 สกุลเงินเท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้งานอย่างชาวไทยเช่นเราๆ ก็ต้องถอนเป็นเหรียญคริปโตไปและไม่สามารถถอนเป็นเงินบาทได้

    สำหรับระยะเวลาในการรอการอนุมัติการถอนเหรียญคริปโตนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาทีหลังจากที่กดยืนยันอีเมล์แล้ว และหลังจากนั้นคุณจะต้องรอให้มีการ Confirm การโอนบนเครือข่าย Blockchain อีก ซึ่งแต่ละเหรียญนั้นก็จะมีเวลาที่แตกต่างกันไป

    ส่วนระบบความปลอดภัย BINANCE ก็พัฒนาให้มีระบบการยืนยันสองขั้นต่อหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น Google Authenticator, SMS หรือ Yubi Key โดยภาพรวม Binance ก็เป็นเว็บเทรดที่ควรสมัครใช้งานและเป็นที่นิยมไม่ว่าจะในแง่มุมของความครบครันในเครื่องมือการเทรดหรือสภาพคล่องและความปลอดภัยก็ตาม

    สำหรับบุคคลที่สนใจเทรดเหรียญที่อยู่นอกเหนือจากกระดานในไทย BX อย่าง BitkubSatang Pro แล้วนั้นละก็เว็บ BINANCE ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะด้วยเว็บที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากและยังมี App รองรับทั้ง Android และ iOS อีกทั้งยังเป็นเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าซื้อขายมากที่สุดในโลกอีกด้วย

📊 สมัครเว็บไซต์  BINANCE คลิกที่นี่

----------------------------------------------------------------------------

⚠️ จงเป็นนักลงทุนอย่างชาญฉลาดโปรดอ่านคำเตือนทุกครั้ง !!! Risk Warning : คำเตือน การลงทุนทั้งหลายล้วน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนและปฎิบัติด้วยตัวเอง - ผู้สนใจลงทุนควรใช้ข้อมูลในเว็บไซต์นี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น และอ่านนโยบายการเงินจากโบรกเกอร์ในแต่ละตลาดทุกครั้ง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอ้างอิงประกอบอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน · ในการลงทุน ซื้อ - ขายในตลาดลงทุนใด ๆ ผู้ลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินลงทุนคืนน้อยกว่าจำนวนเงินลงทุน - อย่าหลงเชื่อใครใดๆที่แนะนำว่ามีบริการโอนเงินดังกล่าว เพื่อรับฝากเงินลงทุน ซื้อ-ขาย แทนท่าน โดยที่ไม่ต้องทำเอง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหลอกเอาเงินทุนท่านไประดมทุน · การลงทุนมิใช่การฝากเงิน และจะไม่ได้รับการค้ำประกันจากสถาบันผู้รับฝากหรือหน่วยงานราชการใดๆ ทั้งสิ้น

👇 กดปุ่มแชร์ความรู้ได้ที่นี่

🔥 บทความที่ได้รับความนิยม

👨‍💻👩‍💻 จำนวนการดูหน้าเว็บวันนี้

- SPONSORED | ผู้สนับสนุน -